sakkarin suttisarn

photography , media arts , management , writing

“Meeting Myself Coming” 300 กิโลเมตรของภาพถ่ายที่เปลี่ยนผ่าน


images © Wei Wu/Meeting Myself Coming

     สายน้ำจุดเชื่อมโยงของชีวิตที่หล่อเลิ้ยงผู้คนและสิ่งต่างๆ มากมาย เราจึงมักจะเห็นได้ว่าทุกทิศทุกทางที่กระแสน้ำไหลหลากผันผ่าน อารยธรรมของมนุษย์ก็เจริญเติบโตลัดเลาะไปกับสายน้ำเสมอตั้งแต่แม่น้ำสินธุ แม่น้ำคงคาในอินเดีย จวบจนแม่น้ำไนล์ในอียิปต์ ตลอดลำน้ำจึงเต็มไปประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและความทรงจำของผู้คนจำนวนมากมายหลายรุ่นที่สั่งสมทับถมกันสืบต่อมา ความทรงจำของสายน้ำสำหรับแต่ละคนนั้นจึงมีความหมายที่หลากหลายตามแต่ประสบการณ์ร่วมที่มีสายน้ำเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต จึงไม่น่าแปลกใจที่เรามักพบเห็นแรงบันดาลใจของผู้สร้างสรรค์ศิลปะหลายยุคหลายสมัยหลายเชื้อชาติในทุกๆแขนงเกิดมาจากสายน้ำที่พวกเขามีความสัมพันธ์ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ความงดงาม ความสุข ความโศกเศร้า การพบเจอและการจากลา หลากหลายอารมณ์ ความรู้สึกตราบเท่าที่มนุษย์ที่รู้สึกได้ล้วนเคียงคู่อยู่กับสายน้ำทุกๆสาย
     หนึ่งในความทรงจำกับสายน้ำที่นำพา  Wei Wu ช่างภาพสาววัย 24 ปีเดินเท้าลัดเลาะเรียบแม่น้ำฟูนันจากบ้านเกิดของเธอในมณฑลเสฉวนของจีนสู่ปากแม่น้ำเป็นระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร การเดินทางที่ยากลำบากนี้นำพา Wei Wu ไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานชุด Meeting Myself Coming  ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความทรงจำของชีวิตในวัยเด็กของเธอผู้คนในครอบครัวที่เธอผูกพันธ์ แต่มากกว่านั้นมันเป็นสิ่งที่หล่อหลอมเธอในฐานะศิลปิน จากเดินทางผ่านภูมิประเทศที่คุ้นเคยจนลางเลือนแปลกตาเป็นสถานที่ที่เธอไม่เคยรู้จักและเกินกว่าจะจินตนาการได้ว่าจะพบเจออะไร สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดคำถามต่อเธอระหว่างการเดินทางเสมอ และ ผู้คนมากหลายในแต่ละสถานที่เหล่านั้นก็เป็นคำตอบให้กับเธอผ่านความสัมพันธ์ที่เป็นตัวค่อยๆสะท้อนสาระสำคัญของการเดินทางครั้งนี้ออกมาให้เธอชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
     สำหรับ Wei Wu นั้นเธอไม่ได้เป็นศิลปินภาพถ่ายที่มีชื่อเสียงหรือเคยมีผลงานใดๆในวงการศิลปะแต่อย่างใด เธอเป็นนักศึกษาปริญญาโทในชั้นปีสุดท้ายของ London College of Communication (LCC) ที่ผันตัวเองจากการเรียนด้านทีวีและวิทยุกระจายเสียงและการทำงานในวงการโฆษณาด้วยความสนใจในการใช้ภาพถ่ายเพื่อสื่อสารกับผู้คนอย่างมีความหมายและความสัมพันธ์และเข้าถึงผู้คนมากกว่าสื่อเชิงพานิชย์ที่เธอเคยผ่านมา งานชุด Meeting Myself Coming เป็นงานโปรเจคสุดท้ายของเธอในการศึกษา การเดินทางจากไกลบ้านเกิดเมืองนอนและความโดดเดี่ยวในต่างประเทศ ทำให้หลายครั้งเธอหวนคำนึงถึงหน้าต่างห้องที่เปิดไปพบแม่น้ำฟูนัน เส้นทางเรียบแม่น้ำที่นำพาเธอเดินไปโรงเรียนและทุกประสบการณ์ในชีวิตประจำวันที่อยู่กับสายน้ำ ความทรงจำเหล่านี้ล้วนเป็นดังประจักษ์พยานอันเป็นนิรันดร์ต่อทุกสิ่งที่ผ่านมาและความรู้สึกในปัจจุบัน ยามเมื่อเธอมองเห็นแม่น้ำเทมส์ในลอนดอน ภาพของความทรงจำริมแม่น้ำฟูนันของเธอก็หวนกลับมาทับซ้อนกันอยู่เสมอ
     บ้านเกิดของ Wei Wu ในเฉิงตูนั้นอยู่ใกล้เคียงจุดบรรจบของแม่น้ำฟูและแม่น้ำนัน อันเป็นที่มาของแม่น้ำฟูนันที่จะยังไหลทอดยาวไปอีกกว่า 300 กิโลเมตรเพื่อรวมกับแม่น้ำสายอื่นๆก่อนจะไหลลงใต้ไปควบรวมกับแม่น้ำแยงซีที่เมืองอี๋ปิน ระหว่างการเดินทางของ Wei Wu นั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่พัฒนาให้เธอเติบโตและมีพัฒนาการในงานที่ดีขึ้น ตลอดการลัดเลาะไปตามเส้นทางริมแม่น้ำที่สลับระหว่างถนนและที่รกชัน ประกอบไปด้วยเมืองอันเป็นอู่อารยธรรมกว่า 2,300 ปีที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เป็นตัวของตัวเอง ผนวกกับความทรงจำในวัยเด็กที่ได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับแม่น้ำจากปู่ย่าตายาย ยิ่งทำให้เธอตื่นเต้นเสมอที่เดินทางผ่านตามเมืองต่างๆริมน้ำนั้นและพบกับผู้คนที่เล่าเรื่องราว หลายสิ่งหลายอย่างที่เธอไม่เคยสังเกตุเห็นให้ปะติดปะต่อกันราวกับเป็นภาพผืนใหญ่ที่ผสานวันวานเมื่อวัยเด็กของเธอกับความทรงจำของปู่ย่าตายายให้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ อันส่งให้เธอตั้งใจเสมอยามที่จรดสายตาผ่านวิวไพเดอร์ของกล้องมีเดียมฟอร์แมทบันทึกภาพลงไปอย่างมีความหมายในทุกๆบนแผ่นฟิล์ม เพื่อเป็นดุจดังของขวัญที่มีให้ต่อความสัมพันธ์ระหว่างปู่ย่าตายายและวัยเด็กของเธอที่มีสายน้ำเป็นตัวเชื่อมเอาไว้
     การเดินทางเลียบตามลำน้ำนั้น Wei Wu ได้พบจากการถ่ายภาพว่าไม่มีภูมิทัศน์ของแม่น้ำสายไหนที่เหมือนกันแม้ว่ามันจะเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน แม่น้ำแต่ละสายล้วนมีลักษณะที่แตกต่างกัน มีธรณีสัญฐานและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เป็นภูมิลักษณะของแต่ละสาย ซึ่งก่อให้เกิดวัฒนธรรมและอารยธรรมริมแม่น้ำที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไปตามแต่ละสายน้ำ และนอกจากที่เธอจะพบกับเรื่องราวและวิถีชีวิตของชุมชนริมน้ำนั้น เธอเองก็ได้พบกับความเปลี่ยนแปลงของชุมชนริมน้ำจากการพัฒนาที่เกิดขึ้นโดยรัฐบาลจีน อาคารสูงที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดบดบังทัศนียภาพที่ควรจะเป็น แม้ในครั้งแรกจะทำให้เธอค่อนข้างผิดหวังแต่เธอก็เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับมันโดยใช้เป็นเครื่องสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นปัจจุบัน ชุมชนเกษตรกรรมที่หดตัวลงและเปลี่ยนเป็นชุมชนอุตสาหกรรม ความเป็นธรรมชาติที่หายไป แม่น้ำที่แห้งขอดในบางช่วง ทางน้ำที่ถูกแทนที่ด้วยถนนคอนกรีต และผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ร่วมกับสายน้ำ เหล่านี้เธอบอกเล่ามันผ่านภาพถ่ายเพื่อยืนยันถึงการเปลี่ยนแปลงที่ต้องเกิดขึ้นเปรียบดังกระแสน้ำที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทุกสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลงที่เราไม่สามารถจะชี้ชัดได้ว่ามันเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี  Wei Wu เลือกที่จะใช้ภาพถ่ายเป็นเครื่องมือในการตั้งคำถามต่อผู้ที่ได้ดูภาพของเธอมากกว่าที่เธอจะชี้นำว่ามันควรเป็นอย่างไร 
     แม้งานชุด Meeting Myself Coming จะเสร็จสิ้นลงไปแล้ว แต่สิ่งที่ตกค้างอยู่ในตัวหญิงสาวเจ้าของผลงานนี้คือการตกผลึกต่องานของตัวเธอเองซึ่งในตอนแรกเธอตั้งใจเพียงที่จะอุทิศมันและเป็นของขวัญแก่วัยเด็กและความทรงของปู่ย่าตายายของเธอ ซึ่งเป็นที่มาของการเปลี่ยนชื่องานชุดนี้จากครั้งแรกที่มีความตั้งใจว่าจะใช้ชื่องานว่า Farewell Childhood มาเป็น Meeting Myself Coming Back เพราะการเรียนรู้จากการเดินทางตลอดเส้นทาง 300 กว่ากิโลเมตร ที่ธรรมชาติและความสัมพันธ์จากผู้คนได้สอนให้เธอรู้ว่าการมีชีวิตไม่ได้เป็นเรื่องอดีต หรือ อนาคต แต่คือปัจจุบัน สายน้ำไม่ได้เป็นเพียงแค่ความทรงจำวัยเด็กในอดีต แต่มันคือทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเธอ 
     ในงานชุด Meeting Myself Coming นั้นเป็นงานในลักษณะ new documentary photography ที่ไม่มุ่งเน้นการเล่าเรื่องแบบภาพชุดในบริบทใดบริบทหนึ่ง แต่เป็นการนำเสนอภาพโดยรวมของเนื้อหาที่ผู้สร้างสรรค์ได้สัมผัสมาโดยส่งต่อให้กับผู้ชมได้นำกลับไปคิดต่อ และนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งในการจบการศึกษาของเธอนั้น มันยังคงมีความหมายในการเป็นเครื่องยืนยันการเติบโตของเธอนับตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินจากเฉิงตู จวบจนจบการเดินทางกว่า 300 กิโลเมตร ทุกๆก้าวที่เธอเดิน ทุกๆคนที่เธอได้พูดคุย ทุกๆรูปที่เธอถ่าย ล้วนเติมเต็มเรื่องราวในวัยเด็กของเธอให้สมบูรณ์และเพิ่มเติมปัจจุบันให้มีความหมายมากขึ้น ทุกๆครั้งที่เธอหันไปมองดูแม่น้ำไม่ว่าสายไหนก็ตามมันคงจะเกิดภาพทับซ้อนให้เห็นถึงการเดินทางครั้งนี้เหมือนกับที่เคยเห็นภาพซ้อนของแม่น้ำฟูนันบนแม่น้ำเทมส์ในลอนดอน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจในงานชิ้นนี้ของเธอ Wei Wu อาจไม่ใช่ศิลปินที่มีชื่อเสียงหรือประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วเฉกเช่นกับศิลปินรุ่นพี่ชาวจีนจำนวนมากที่เติบโตโดดเด่นขึ้นมาในระยะ 10 ปีหลังมานี้ แต่ Wei Wu เปรียบเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนผ่านจากความเป็นนักศึกษาศิลปะสู่การเป็นศิลปินที่ต้องผ่านการตกผลึกทางความคิดและพัฒนาผลงานจากการทำงานที่ต้องสัมผัสบริบทกับสังคมและชุมชนเฉกเช่นศิลปินอาชีพทั่วไป ซึ่งจะเห็นได้จากการเปลี่ยนชื่อผลงานและแนวคิดที่มีต่องานระหว่างการทำงาน ซึ่งเกิดจากการได้สัมผัสกับพื้นที่ทำงานจนเกิดการตกผลึกเป็นตัวงานที่สมบูรณ์ในเวลาต่อมา 

ศักรินทร์ สุทธิสาร, 2559

ชมภาพผลงานชุด “Meeting Myself Coming” ของ Wei Wu
http://www.wuweiphoto.com/

----------------------------------------------------------------

 

Jan 12, 2017
920 views

Other journal

  • Exhibition Review: “BOO!” ก็ผู้หญิงคนหนึ่งนี่แหละนะ

    ภาพถ่ายสำหรับทุกคนเชื่อว่ามีความหมายและคุณค่าต่อมันที่แตกต่างกัน ทุกครั้งที่เราแนบสายตาเข้ากับวิวไฟเดอร์แล้วจรดนิ้วกดชัตเตอร์นั้น ช่วงเวลาที่อยู่เบื้องหน้าราวกับจะถูกหยุดและบันทึกลงบนแผ่นฟิล์มหรือเซนเซอร์รับแสงตามแต่กล้องที่แต่ละคนใช้งาน และเราจะมองภาพถ่ายนั้นด้วยความรู้สึกแบบไหน คนที่มาดูภาพถ่ายของเรานั้นจะรู้สึกเช่นเดียวกับเราหรือไม่ ตามแต่ละคนก็ล้วนมีความรู้สึกต่อภาพนั้นๆที่อาจเหมือนหรือแตกต่างไปตามประสบการณ์ร่วมที่มีต่อภาพนั้น และสถานะที่ภาพถ่ายนั้นเป็นอยู่ ความทรงจำที่สนุกสนานของผู้ถ่ายหรือความต้องตาต้องใจทางศิลปะ ภาพหนึ่งใบล้วนทำหน้าที่นั้นได้ทั้งสิ้น เจ้าของภาพใบนั้นจะรู้หรือไม่ว่าการเดินทางของภาพถ่ายของเขาจะเดินทางไปไกลขนาด มันจะจบที่ลิ้นชักหรือสมุดไดอารี่เล่มเล็กๆที่หยิบขึ้นมาดูยามคิดถึง บนเฟสบุ๊คที่เต็มไปด้วยบทสนทนาอันสนุกสนานของเพื่อนฝูงที่มีประสบการณ์ร่วมกัน หรือเป็นบนกำแพงแกลอรี่ศิลปะท่ามกลางสายตาคนแปลกหน้าที่เข้ามาชื่นชมซึ่งมันอาจมาไกลกว่าที่เราคิดเมื่อยามกดชัตเตอร์นั้น ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้สำหรับการเดินทางของภาพถ่ายใบหนึ่ง แล้วสิ่งไหนล่ะ ที่ดีต่อใจสำหรับผู้ถ่ายภาพใบนั้น เขาจะฉีกยิ้มกว้างที่สุดเมื่อภาพถ่ายนั้นอยู่ ณ ที่ไหน จากความสัมพันธ์กับเจ้าของงานชิ้นหนึ่งและการเติบโตที่นำพางานของเธอมาไกลกว่าเจตนา ที่ทำให้ผู้เขียนเองอยากอุทิศบทวิจารณ์นี้ให้แก่ความสุขจากภาพถ่ายของเธอที่มอบให้กับทุกคนที่ได้พบเห็น

    sakkarin suttisarn
    Mar 9, 2017
    2284 views

About

Assistant Lecturer at BACHELOR OF FINE ARTS PROGRAMME IN PHOTOGRAPHIC ART
Chiang Mai University, Thailand

CV Download
Contact
e-mail: [email protected]
Website
http://www.cmphotofest.com/