มาดอนน่า ขึ้นรับรางวัล Billboard Women in Music 2016 เธอเริ่มต้นด้วยการถ่างขาออก และพูดประโยคแรกว่า “I always feel better with something hard between my legs.” สำหรับผู้หญิงจำนวนมาก แม้กระทั่งการยืนหรือนั่งแบบถ่างขา ยังทำให้เธอรู้สึกประหม่า ความรู้สึกนั้นเกิดมาจากการขัดเกลาทางสังคมที่ซับซ้อน วัฒนธรรมที่คอยบอกว่าผู้หญิงต้องเรียบร้อย เป็นผู้รองรับ เป็นผู้ดูแล ตัดสินใจเองไม่เป็น ต้องคอยฟัง ต้องหุบปากและหุบทุกอย่างเอาไว้ มันน่าอายอย่าเปิดมันออกมา
ไม่ว่าจะตระหนักถึงนัยการเมืองของศิลปะหรือไม่ นิทรรศการ SILPA: TRANSFORM กาย-วิพากษ์ได้ดึงเอาประเด็นที่น่าสนใจที่สุดประเด็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ศิลปะไทยสมัยใหม่ อันได้แก่ การแสดงภาพร่างกายขึ้นมา ทว่าน่าเสียดายที่ยังไปไม่ถึงการ “วิพากษ์” ในความหมายของ “critique” คือการวิเคราะห์แจกแจงโดยละเอียดถึงนัยการเมืองของการให้ภาพร่างกายที่เกาะเกี่ยวอยู่กับรอยต่อของความเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ทางการเมือง รูปแบบทางศิลปะหรือ “สไตล์” ที่ส่งผลต่อการนำเสนอภาพร่างกายในยุคที่ศิลปทำงานนั้นสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับสำนึกเรื่องชนชั้นทั้งก่อน ระหว่างและหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เมื่อเป็นเช่นนี้ ถึงแม้จะมีแยกส่วนร่างกายออกมาเป็นภาพร่างมากมายบนกระดานดำ “กาย-วิพากษ์” ก็ยังเป็นแค่ “กายวิภาค” แต่ยังไม่ถึงกับ “วิพากษ์กาย”
ภาพถ่ายสำหรับทุกคนเชื่อว่ามีความหมายและคุณค่าต่อมันที่แตกต่างกัน ทุกครั้งที่เราแนบสายตาเข้ากับวิวไฟเดอร์แล้วจรดนิ้วกดชัตเตอร์นั้น ช่วงเวลาที่อยู่เบื้องหน้าราวกับจะถูกหยุดและบันทึกลงบนแผ่นฟิล์มหรือเซนเซอร์รับแสงตามแต่กล้องที่แต่ละคนใช้งาน และเราจะมองภาพถ่ายนั้นด้วยความรู้สึกแบบไหน คนที่มาดูภาพถ่ายของเรานั้นจะรู้สึกเช่นเดียวกับเราหรือไม่ ตามแต่ละคนก็ล้วนมีความรู้สึกต่อภาพนั้นๆที่อาจเหมือนหรือแตกต่างไปตามประสบการณ์ร่วมที่มีต่อภาพนั้น และสถานะที่ภาพถ่ายนั้นเป็นอยู่ ความทรงจำที่สนุกสนานของผู้ถ่ายหรือความต้องตาต้องใจทางศิลปะ ภาพหนึ่งใบล้วนทำหน้าที่นั้นได้ทั้งสิ้น เจ้าของภาพใบนั้นจะรู้หรือไม่ว่าการเดินทางของภาพถ่ายของเขาจะเดินทางไปไกลขนาด มันจะจบที่ลิ้นชักหรือสมุดไดอารี่เล่มเล็กๆที่หยิบขึ้นมาดูยามคิดถึง บนเฟสบุ๊คที่เต็มไปด้วยบทสนทนาอันสนุกสนานของเพื่อนฝูงที่มีประสบการณ์ร่วมกัน หรือเป็นบนกำแพงแกลอรี่ศิลปะท่ามกลางสายตาคนแปลกหน้าที่เข้ามาชื่นชมซึ่งมันอาจมาไกลกว่าที่เราคิดเมื่อยามกดชัตเตอร์นั้น ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้สำหรับการเดินทางของภาพถ่ายใบหนึ่ง แล้วสิ่งไหนล่ะ ที่ดีต่อใจสำหรับผู้ถ่ายภาพใบนั้น เขาจะฉีกยิ้มกว้างที่สุดเมื่อภาพถ่ายนั้นอยู่ ณ ที่ไหน จากความสัมพันธ์กับเจ้าของงานชิ้นหนึ่งและการเติบโตที่นำพางานของเธอมาไกลกว่าเจตนา ที่ทำให้ผู้เขียนเองอยากอุทิศบทวิจารณ์นี้ให้แก่ความสุขจากภาพถ่ายของเธอที่มอบให้กับทุกคนที่ได้พบเห็น
“การไปดูงานศิลปะ ภาพยนตร์ ทัศนศึกษา และการอ่านหนังสือ ล้วนเป็นเรื่องประเทืองปัญญา ”
หนึ่งในความทรงจำกับสายน้ำที่นำพา Wei Wu ช่างภาพสาววัย 24 ปีเดินเท้าลัดเลาะเรียบแม่น้ำฟูนันจากบ้านเกิดของเธอในมณฑลเสฉวนของจีนสู่ปากแม่น้ำเป็นระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร การเดินทางที่ยากลำบากนี้นำพา Wei Wu ไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานชุด Meeting Myself Coming ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความทรงจำของชีวิตในวัยเด็กของเธอผู้คนในครอบครัวที่เธอผูกพันธ์ แต่มากกว่านั้นมันเป็นสิ่งที่หล่อหลอมเธอในฐานะศิลปิน
เมื่อพูดถึงการผลิตซ้ำ เรามักจะนึกถึงกระบวนการผลิตแบบสายพานขนาดใหญ่ในโรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงอุปกรณ์และส่วนประกอบของสินค้าต่างๆ ออกมาพร้อมๆกันเป็นจำนวนมาก จนเรียกอีกอย่างได้ว่าเป็นการผลิตจำนวนมาก (Mass production) แต่ใครจะรู้กัน ว่าการผลิตซ้ำหรือการผลิตเป็นจำนวนมากนี้ไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น เพราะแอนดี้ วอร์ฮอล (Andy Warhol) ได้ทำให้ศิลปะกลายมาเป็นสิ่งที่สามารถผลิตซ้ำได้ เช่นเดียวกันกับรถยนต์ นาฬิกา และอาหารกระป๋อง โดยที่ตัวชิ้นงานเหล่านั้นยังคงสะท้อนความเป็นวอร์ฮอลออกมาสู่สายตาคนทั่วไป
‘Dream Property’ คือชื่อนิทรรศการศิลปะโดย ‘มิติ เรืองกฤตยา’ เป็นนิทรรศการเดี่ยวจัดแสดงที่ บางกอก ซิตี้ซิตี้ แกลเลอรี่ (Bangkok CityCity Gallery) เมื่อไม่นานมานี้ ระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม - 27 พฤศจิกายน 2559
Black and White Thai *Sea* Scape Photography Exhibition 2016
วันใหม่ของแต่ละคนเริ่มไม่พร้อมกัน ทำไมต้องมีนาฬิกาที่เริ่มต้นวันใหม่เหมือนกัน?
"Without the faculty of forgetting, our past would weigh so heavily on our present that we should not have the strength to confront another moment, still less to live through it. Life would be bearable only to frivolous natures, those in fact who do not remember." - Emil Michel Cioran, The Trouble With Being